บทที่ 5

บทที่5 

 พระเจ้าเลือกชนชาติยิศราเอล
    
    พระเจ้าได้ทรงติดต่อกับชนชาติยิศราเอลในเวลานั้นเพียงชาติเดียว  เพราะชนชาติอื่นไม่ยอมหันกลับมาหาพระองค์แล้ว  ชาติยิศราเอลต่อมาได้ถูกเรียกว่า พวกยิว (ยูดาย)  พระเจ้าเลือกชนชาติยิวไว้มิได้หมายความว่าเขาดีกว่าชาติอื่น ๆ แต่เพราะพระเจ้าได้สัญญากับอับราฮามไว้ว่าจะให้พระเยซูกำเนิดจากเชื้อสายของท่าน
    เมื่ออับราฮามบิดาแห่งความเชื่อได้สิ้นชีพไปแล้ว  หลานของเขาคือยาโคบได้เป็นบิดาของลูกชาย 12 คนซึ่งต่อมาเป็น 12 ตระกูลของชนชาติยิศราเอล  ในจำนวนลูก 12 คนยาโคบโปรดปรานโยเซฟคนรองสุดท้องมากที่สุด  เนื่องจากความอิจฉาของบรรดาพี่ ๆ  โยเซฟได้ถูกขายไปในประเทศอียิปต์  พระเจ้าได้สถิตอยู่กับโยเซฟ  ต่อมาเขาจึงได้รับตำแหน่งเป็นอุปราชในสำนักของกษัตริย์ฟาโรห์ในประเทศอียิปต์  โยเซฟได้เชิญให้ยาโคบผู้เป็นบิดาและบรรดาพี่น้องของเขา  ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ในประเทศอียิปต์  ต่อมาชนชาติพวกนี้ถูกเรียกว่ายิศราเอลตามชื่อของยิศราเอล (ยาโคบบิดาของโยเซฟ) เยเนซิศ 37.1-50
    ภายหลังโยเซฟได้ถึงแก่กรรมแล้ว  ฟาโรห์องค์ใหม่รู้จักโยเซฟ  ในเวลาเดียวกันกับที่พวกพี่น้องของโยเซฟก็มีลูกหลานเกิดขึ้นมากในประเทศอียิปต์  ฟาโรห์องค์ใหม่จึงได้แสดงความทารุณโหดร้ายแก่ชนชาติยิศราเอล  ชนชาติยิศราเอลได้ตกเป็นทางของพวกอียิปต์  เขาได้เกณฑ์ให้พวกยิศราเองสร้างพระราชวังและใช้งานอื่นอย่างหนัก  พวกยิศราเอลตกเป็นทาสในอียิปต์ถึง 400 ปี  จนกระทั่งพระเจ้าได้เลือกโมเซเป็นผู้ช่วยปลดปล่อยชนชาติยิศราเอลจากการเป็นทาส  โมเซได้กระทำการอัศจรรย์ต่อหน้าฟาโรห์ 10 อย่าง  ครั้งที่สิบโอรสของฟาโรห์ถึงแก่ชีวิตในที่สุดฟาโรห์ยอมปลดปล่อยชาติยิศราเอล (เอ็กโซโด บทที่ 1-15)  ชนชาติยิศราเอลได้วนเวียนในป่าเป็นเวลา 40 ปี  เพราะเนื่องจากเขาทั้งหลายขาดความเชื่อ  ในที่สุดชนชาติยิศราเอลก็ได้เข้าไปสู่แผ่นดินคะนาอัน ได้สู้รบกับชนชาติที่ไม่นับถือพระเจ้า  พระเจ้าได้สถิตอยู่กับเขาทั้งหลายจนได้ชัยชนะ เมื่อศัตรูได้ถูกปราบลงหมดสิ้น  ชนชาติยิศราเองจึงได้ตั้งรกรากอยู่ในแผ่นดินคะนาอันหรือปาเลสไตน์ปัจจุบัน  แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาที่จะประทานให้แก่อับราฮาม
    เมื่อเข้าไปในแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาแล้วพระเจ้าได้ตั้งผู้วินิจฉัย (ผู้พิพากษา)  เป็นผู้นำประเทศตลอดมา  จนในที่สุดชนชาติยิศราเอลต้องการมีกษัตริย์  พระเจ้าก็ได้แต่งตั้งซาอูลให้เป็นกษัตริย์องค์แรกของชนชาติยิศราเอลครอบครองที่กรุงยะรูซาเล็มต่อจากซาอูล คือ กษัตริย์ดาวิด  เป็นคนที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์โลก  เมื่อสิ้นชีพแล้วซะโลโมราชโอรสของดาวิดได้เป็นกษัตริย์ต่อจากพระราชบิดา  ทั้งสามองค์ครอบครองคนละ 40 ปี  แต่พอสิ้นสมัยของกษัตริย์ซะโลโม คือในปี 933 ก.ค.ศ.  อาณาจักรได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือทางเหนือและทางใต้เพราะการไม่เชื่อฟัง  ในที่สุดอาณาจักรทางเหนือถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่อะซีเรียในปี 721 ก.ค.ศ.  และอาณาจักรทางใต้ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่บาบิโลนในปี 586 ก.ค.ศ.
    ชนชาติยิศราเอลได้ตกเป็นเชลยในบาบิโลน 70 ปี  โดยพระกรุณาของพระเจ้าได้ทรงโปรดช่วยให้ผู้ชอบธรรมรอดจากคมดาบ  เพื่อจะให้คำสัญญาของพระเจ้าสำเร็จคือในการที่จะให้พระมาซีฮาพระผู้ช่วยให้รอดเสด็จมา  คนชอบธรรมที่เหลือได้กลับไปกรุงยะรูซาเล็ม  สร้างพระวิหาร,  กำแพงเมืองยะรูซาเล็มจนสำเร็จ  และประวัติศาสตร์ของพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้มาจบลงในปีก่อนคริสตศักราช 400 ปี

ข่าวสารแห่งความหวัง
    นับตั้งแต่โมเซประมาณ 1500 ก.ค.ศ. เป็นต้นไป จนถึง 400 ก.ค.ศ.  พระเจ้าได้ใช้ศาสดาพยากรณ์มาประกาศข่าวความหวังที่จะทำให้มนุษย์หันกลับไปหาพระเจ้า  คำพยากรณ์ส่วนมากมีใจกลางอยู่ที่พระเยซูคริสต์เจ้า  "เมื่อคราวก่อนพระเจ้าได้ตรัสทางพวกผู้พยากรณ์ทีละเล็กทีละน้อย  ด้วยอาการหลายวิธีแก่บรรพบุรุษ แต่ในคราวที่สุดนี้ได้ตรัสแก่เราทางพระบุตร" (เฮ็บราย 1.1)  ในสมัยผู้พยากรณ์นี้พระเจ้าได้ใช้ผู้พยากรณ์มาสำแดงให้โลกเห็นว่า  พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเหนือสารพัด พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ครอบครองในโลกนี้  ประเทศชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและล่มจมดับศูนย์ไปในประวัติศาสตร์  เพราะเขาขัดขืนน้ำพระทัยของพระเจ้า  พระองค์ใช้ผู้พยากรณ์ให้ประกาศเรื่องอาณาจักรอันนิรันดร์ของพระองค์  (ดานิเอล 2.41-44)  เรื่องความหวังในพระมาซีฮา (ยะซายา 7.14, 9.6)  ในเวลาเดียวกันพระเจ้าก็ชักจูงมนุษย์ทั้งหลายให้หันเหออกจากการไหวรูปเคารพ (ยะซายา 44.19-20,  ยิระมะยา 10.11-16)  และออกจากลัทธิคำสอนของมนุษย์

โครงการแห่งความรอดของพระเจ้าสำเร็จในพระเยซู
    ในสมัยโบราณถึงแม้มนุษย์ได้ทอดทิ้งไม่นับถือพระเจ้าเที่ยงแท้  และกลับไปนมัสการลัทธิต่าง ๆ ตามอำเภอใจของตนเอง  น้ำพระทัยของพระเจ้าไม่อยากเห็นพลไพร่ของพระองค์หลงงมงายไปปฏิบัติสิ่งไร้สาระอย่างนั้น  พระเจ้าพยายามบอกให้มนุษย์หันกลับมาหาพระองค์  พระเจ้าได้ทรงชี้ช่องความหวังในอนาคตแก่มนุษย์  การชี้แจงนั้นพระเจ้าได้กระทำกันในลักษณะต่าง ๆ  แต่พอจะรวบรวมเป็นสองประเด็นด้วยกันคือพระเจ้าจะทรงรวบรวมมนุษย์ทั้งหลายที่ได้หลงไปนั้นให้เข้ามาอยู่ในครอบครัวเดียวกันหรือภายใต้อาณาจักรเดียวกัน  โครงการเหล่านี้พระเจ้ามีจุดประสงค์ที่จะให้สำเร็จโดยพระเยซู
    ข้อพระคริสตธรรมคัมภีร์เดิม  ตั้งแต่เยเนซิศจนถึงหนังสือมาลาคีได้ชี้แจงเป็นแนวทางล่วงหน้าการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์  ในสายตาของพวกยิวกำลังรอคอยการเสด็จมาของพระมาซีฮาซึ่งเป็นเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด  ตั้งแต่มนุษย์ได้พลาดล้มลงกระทำบาปในสวนเอเดนจนถึงพระเยซูเสด็จมา  มีหมายสำคัญหลายอย่างซึ่งชี้บอกการมาของพระมาซีฮาล่วงหน้า
    เยเนซิศ 3.15  ชี้แจงว่า  พระมาซีฮาจะบังเกิดจากหญิงพรหมจารี และจะมาเป็นผู้ทำลายอำนาจของซาตาย
    เยเนซิศ 12.1-3    ข้อนี้ชี้แจงล่วงหน้าว่า  พระมาซีฮาเป็นเชื้อสายของอับราฮาม
    เยเนซิศ 18.18     ข้อนี้ชี้แจงว่า  พระมาซีฮาจะช่วยให้โลกได้รับความรอด
    เยเนซิศ 49.10     ข้อนี้ชี้แจงว่า  พระมาซีฮาจะบังเกิดในตระกูลยูดา
    เยเนซิศ 7.11-12  ข้อนี้ชี้แจงว่า พระมาซีฮาจะบังเกิดในครอบครัวของดาวิด
    เยเนซิศ 18.15     ข้อนี้ชี้แจงว่า  พระมาซีฮาจะเป็นศาสดาพยากรณ์เช่นอย่างโมเซ
    เยเนซิศ 7.14       ข้อนี้ชี้แจงว่า  พระมาซีฮาจะบังเกิดจากหญิงพรหมจารี
    เยเนซิศ 2.44       ข้อนี้ชี้แจงว่า  พระมาซีฮาจะตั้งอาณาจักร
    มีคา 5.2              ข้อนี้ชี้แจงว่า  พระมาซีฮาจะบังเกิดที่หมู่บ้านเบ็ธเลเฮ็ม
    ยะซายา 53          บทนี้ชี้แจงว่า  พระมาซีฮาจะต้องทนทุกข์ทรมานบนไม้กางเขนและจะเป็นขึ้นมาจากตาย
                                                                              

     พระเยซูได้เสด็จมาทำให้ข้อความทั้งสิ้นซึ่งได้ทำนายไว้สำเร็จ  "นี่เป็นถ้อยคำของเราซึ่งเราได้บอกไว้แก่ท่านทั้งหลายเมื่อเรายังอยู่กับท่านว่า บรรดาคำที่เขียนไว้ในบัญญัติของโมเซ และในคัมภีร์ของเหล่าศาสดาพยากรณ์ และในคัมภีร์เพลงสดุดีกล่าวเล็งถึงเรานั้น จำเป็นจะต้องสำเร็จ" (ลูกา 24.44)
    พระองค์เองได้ประกาศว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด  เป็นผู้ที่จะทำให้บรรดาชนชาติต่าง ๆ ที่หันเหไปจากพระเจ้าให้เขากลับมาเป็นไมตรีกับพระองค์อีก "พระเยซูตรัสแก่เขาว่า เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาเว้นไว้มาทางเรา" (โยฮัน 14.6)
    พระองค์ชี้แจงว่า พระองค์เป็นกษัตริย์แห่งสันติสุข (มัดธาย 27.11-12)  พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดตามที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับอาดามในเยเนซิศ 3.15  พระเยซูได้เสด็จมาตามโครงการของพระเจ้า  พระองค์มิได้ประดิษฐ์คำสอนหรือปรัชญาของพระองค์ขึ้น  ชีวิตอันบริสุทธิ์ที่ปราศจากจากบาปของพระองค์,  คำสอนอันอมตะของพระองค์,  การมหัศจรรย์ที่เหนือกว่ามนุษย์ของพระองค์,  คำพยากรณ์ที่ละเอียดเกี่ยวกับพระองค์,  การสิ้นพระชน์และการฟื้นคืนพระชนม์  และอิทธิพลของพระองค์ต่อโลกสมัยโบราณและสมัยปัจจุบันได้พิสูจน์เหนือข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้นว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่จะทำให้มนุษย์หันกลับไปหาพระเจ้า
 

ตอบคำถามแบบทดสอบ บทที่ 5  คลิกที่นี่

บทที่6